#เลี่ยงได้ควรเลี่ยงไปก่อน
เนื่องจากเด็กวัยนี้ต้องการสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตมากกว่า
พยายามให้ลูกได้ทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ #อย่าอดมื้อเช้า
เพราะพลังงานที่ได้รับจากอาหารจะส่งไปยังสมอง
เมื่อลูกอดจะทำให้เขากลายเป็นเด็กสมาธิสั้น หงุดหงิดง่ายไปเลย
#แล้วมีอาหารอะไรบ้างที่ไม่ควรให้ลูกน้อยกิน
1. นมเปรี้ยว
ไม่สามารถดื่มแทนนมสดได้
หากลูกชอบดื่มแนะนำว่าไม่ควรดื่มมากกว่า 1 กล่อง หรือ 1 ขวดเล็ก/วัน
เพราะว่านมชนิดนี้ทำจากนมพร่องมันเนย เป็นนมที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อย
และมีน้ำตาลสูง
2. นมถั่วเหลือง
นมชนิดนี้ให้วิตามิน
เกลือแร่ และแคลเซียมในปริมาณที่น้อยมาก
โดยเฉพาะแคลเซียมซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กวัยนี้ต้องการ (นมถั่วเหลือง 3-5 กล่อง
เทียบเท่านมวัว 1 กล่อง ซึ่งมันเป็นปริมาณที่มากเกินไป สู้กินนมวัว 1
กล่อง จะดีซะกว่า)
3. ลูกอม น้ำอัดลม ของหวานต่าง ๆ
อย่างที่รู้กันว่าน้ำอัดลมไม่เหมาะกับเด็ก
นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังทำให้ได้รับสารอาหารไม่เต็มที่
ลูกอมกับของหวานก็เช่นกัน เด็กบางคนกินเยอะเกินไปจนอิ่มและไม่ยอมกินข้าว
ทั้งยังทำให้ฟันผุอีกด้วย และขนมบางชนิดก็มีผงชูรสมากเกินไป
4. ซุปไก่สกัด
ไม่ใช่ว่าซุปไก่สกัดไม่ดี
แต่เด็กวัยนี้ไม่จำเป็นต้องทานซุปไก่ก็ได้
เพราะกว่าลูกจะกินให้มีประโยชน์ต่อร่างกายต้องกินจำนวนมาก เช่น ซุปไก่สกัด 5
ขวด เท่ากับโปรตีนที่ได้จากไก่ย่าง 1 น่อง หรือต้องดื่ม 290,000 ขวด
จึงจะได้แคลเซียมเท่ากับนม 1 แก้ว
5. น้ำมันปลาทะเล
มีความเชื่อมากมายว่าทานน้ำมันปลาทะเลแล้วจะฉลาด
แต่ก็ไม่มีหลักฐานออกมาแสดงอย่างชัดเจน
เนื่องจากน้ำมันปลาไม่ได้ช่วยรักษาความผิดปกติของสมองแต่อย่างใด
และไม่แนะนำให้ซื้อทานเองโดยเฉพาะน้ำมันตับปลาทะเล
เพราะถ้าร่างกายได้รับวิตามินเอ วิตามินดีมากเกินไป มันจะกลายเป็นพิษ
เพื่อความปลอดภัยควรทานปลาทะเลจะดีกว่า
ที่มา : th.theasianparent.com